ViennaUP 2024 — เทศกาลรวม StartUP ทั่วโลกมาอยู่ด้วยกัน 7 วัน ที่ Vienna
“ ถ้าเป็นไปได้ ผมอยากจะไปงาน ViennaUP ทุกปี
ประทับใจมาก ที่ได้เจอเพื่อน ๆ StartUP ทั่วโลกมาอยู่ด้วยกัน ในช่วงเวลาเดียวกัน ในเมืองนึงที่สวยที่สุดในโลก ได้เปิดโลก ได้เพื่อน ได้ connection ได้ความรู้ ได้โอกาสต่อยอดทางธุรกิจ ในขณะที่ได้เที่ยว ได้พักผ่อน ชมดนตรี ดูศิลปะ จิบไวน์ ดื่มกาแฟ “
เราอาจจะคุ้นเคยกับเทศกาลหนัง ที่รวมหลาย ๆ หนัง เหล่าคนในวงการ และแฟนคลับ มาอยู่ที่เดียวกัน เป็นระยะเวลานึงในสถานที่แห่งนึง เทศกาลดนตรีก็มีเช่นเดียวกัน คล้าย ๆ กับเทศกาลหนัง
แต่ว่านี่คือครั้งแรกที่ผมได้มีโอกาสสัมผัสเทศกาล StartUP หรือ StartUP festival ที่รวมคนที่อยู่ในแวดวง StartUP ทั้ง StartUP founders ทั้งเหล่านักลงทุน VC กองทุน ทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชน มาอยู่ร่วมกันในสถานที่เดียวกันเป็นระยะเวลานึง มีการจัดกิจกรรม มีการประกวด มีการแข่งขัน pitching มีการทำความรู้จักกัน
งานเทศกาลนี้ชื่อว่า ViennaUP (Vienna + StartUP) ที่จัดขึ้นทุกปี โดยปีนี้จัดในช่วงวันที่ 3–9 มิถุนายน 2024 เป็นระยะเวลา 7 วันเต็ม โดยที่มีอีเวนท์เกี่ยวกับ StartUP ต่าง ๆ ทั่ว Vienna ตลอดทั้งสัปดาห์ ก็จะมี event ด้านต่าง ๆ เช่น health เกษตร การแพทย์ ด้านสังคม การศึกษา สิ่งแวดล้อม ESG แต่ละงานก็จะมี theme ต่าง ๆ บางงานใหญ่มาก บางงานจัดอบอุ่นเล็ก ๆ สถานที่มีตั้งแต่จัดในพระราชวัง พิพิธภันฑ์ จัดในบริษัทเอกชน จัดในหน่วยงานภาครัฐ ในสวน ตลอดจนไปถึงจัดในคาเฟ่ก็มี รวม ๆ มีเป็น 40–50 event เลยครับ
เมืองคลาสสิกเรียบง่ายที่มีเป้าหมายเป็นศูนย์กลาง StartUP ของโลก
หากนึกเมือง Vienna คนมักจะนึกถึงดนตรี ศิลปะ นึกถึง Mozart นึกถึงอารยะธรรมที่เก่าแก่ เมืองสวย สวยเรื่อย ๆ แต่ด้วยวิสัยทัศน์ของผู้นำภาครัฐ ที่อยากจะเปลี่ยนแปลง Vienna จากเมืองเรียบง่าย เมืองของผู้ใหญ่ ให้กลายเป็นเมืองที่มีสีสัน มีคนรุ่นใหม่ มีเทคโนโลยี มีความทันสมัย มีความเป็นสากล จึงพยายามผลักดันเรื่องของ StartUP มาในหลาย ๆ มิติ เพราะเชื่อมั่นว่า StartUP นี่แหละที่จะเป็นฟันเฟืองแห่งความเปลี่ยนแปลง ก่อนไปที่ Vienna ผมเองที่ทำ StartUP ก็ไม่เคยนึกถึง Vienna แต่ตอนนี้เชื่อว่าอีกไม่นาน Vienna น่าจะเป็นหนึ่งใน StartUP hub ที่สำคัญของโลก
งาน ViennaUP เป็นกลไกสำคัญในการประชาสัมพันธ์ รวมทั้งการนำพาไปสู้เป้าหมายนี้ที่ดีเยี่ยม
หัวใจความสำเร็จของ StartUP คือ connectivity และเป็นสิ่งที่เห็นใน ViennaUP
Key take away ที่สำคัญที่สุดของผม จากงาน ViennaUP ที่อยากจะแชร์ให้ทุกคนฟังคือ การ connectivity ไม่ว่าจะเป็นคนกับคน คนกับหน่วยงาน เจ้าของโจทย์กับ StartUP ที่จะมาแก้ เอกชนกับภาครัฐ เมืองกับเมือง ประเทศกับประเทศ แหล่งเงินทุนสนับสนุน องค์ประกอบของ connectivity ที่ดี ผมคิดว่ามีดังนี้
Location
สำหรับ Vienna ความได้เปรียบคือเป็นเมืองที่สวย ปลอดภัย น่าอยู่ อากาศดี การบริหารจัดการดีมาก ๆ มีสถานที่มากมาย ให้ทำให้คนสามารถนัดเจอกัน คุยกัน เพื่อแลกเปลี่ยนไอเดีย เพื่อคุยธุรกิจ อีกข้อได้เปรียบของ location คือ มา Vienna ได้ง่ายมากจากทุกที่ในยุโรป ไม่ว่าจะเป็นทั้งฝั่งยุโรปตะวันตกและยุโรปตะวันออก
Transportation
ระบบขนส่งมวลชน คือไปได้ทุกที่ไม่เกิน 20 นาที ราคาถูกมาก ผมไปอยู่ 1 เดือนก็เลยซื้อตั๋วเดือน ประมาณ 1,500 บาท ขึ้นได้ทุกอย่าง รถไฟ รถเมล์ รถราง ซื้อในแอพ ซื้อแล้วก็เดินทางได้เลย hop-on hop-off ไม่มีการตอกตั๋ว ไม่มีประตูกั้น flow สุด ๆ นาน ๆ ทีก็จะมีคนมาสุ่มตรวจตั๋ว ผมไปอยู่ 1 เดือน เจอ 2 ครั้งครับ
Communication
ทุกคนใช้ภาษาอังกฤษได้ ทุก event ที่ไป ใช้แต่ภาษาอังกฤษ ไม่มี event ไหนที่เป็นภาษาเยอรมันเลย เป็นงานที่ International มาก มันไม่มีกำแพงด้านภาษา รู้สึก free และกล้าที่จะเข้าไปคุย
ผมคิดว่า 6 ปี ของการทำ BOTNOI คงจะไปไกลกว่านี้ เร็วกว่านี้ หากว่าผมเริ่มสร้างความเชื่อมโยงระดับสากลก่อนหน้านี้ แต่หากคิดดูแล้วความสำเร็จที่ผ่านมาของ BOTNOI ก็คือ connectivity ที่ผมก็พยายามสร้างขึ้นในประเทศไทย
ผมอยากให้มี BangkokUP
ผมประทับใจ ViennaUP งานนี้จริง ๆ ครับ ในใจก็คิดว่า จะเป็นไปได้หรือไม่ ที่จะเลียนแบบ ViennaUP เอา StartUP ทั่ว ASEAN มาเจอกันที่ Bangkok ผมเชื่อว่ามันได้ประโยชน์มากมาย ทั้งความสัมพันธ์กัน ทั้งทางสังคม ทั้งทางเศรษฐกิจ หรือจะจัดเป็น AseanUP ที่หมุนเวียนกันเป็นเจ้าภาพก็ได้ โจทย์ทั้งทางเศรษฐกิจและสังคม ก็คล้ายกัน อยู่ในจุดเดียวกัน ผมเชื่อว่า BangkokUP จะน่าสนใจเพราะ
1. โจทย์พร้อม
ผมคิดว่า StartUP เหมาะกับตลาดเอเชียมากกว่าด้วยซ้ำ เพราะเรามีโจทย์ปากท้องเยอะกว่าฝรั่ง เรามีปัญหามากมาย ทั้งความเหลื่อมล้ำ ทั้งปัญหาอาชญากรรม ทั้งการศึกษา ทั้งสิ่งแวดล้อม ฝุ่นพิษ
2. คนพร้อม
ผมเชื่อว่าคนไทยเก่ง เก่งในระดับบุคคล แต่ว่าระบบและการจัดการในระดับองค์กรสู้เค้าไม่ได้ และความสามัคคีการทำงานร่วมกันสู้เค้าไม่ได้ แต่หากเราแก้ไขได้ เราสร้างระบบขึ้นมา เราสร้างความเชื่อมโยงระหว่างภาครัฐ การทำงานร่วมกันในแต่ละกระทรวง การทำงานระหว่างมหาวิทยาลัย ภาครัฐและเอกชน ถ้าทำได้ผมว่าจะไปได้ไกลมาก ผมว่า BangkokUP อาจจะเป็นจุดเริ่มในความเชื่อมโยงก็เป็นได้
3. เมืองพร้อม
Bangkok เป็น destination อันดับต้น ๆ ของโลกสำหรับนักท่องเที่ยว ถ้าเราทำให้การเดินทางสะดวกขึ้น ทำให้ความปลอดภัยดีขึ้น อาหารกับที่พักและสถานที่ท่องเที่ยวเราไม่แพ้ใครในโลก ผมเชื่อว่าหากจัดงาน StartUP ทั่วโลกก็อยากมาเมืองไทยกัน และจะยอมมากันทุกปี เหมือนกับที่ผมก็อยากจะไป Vienna ทุกปีเช่นเดียวกัน
“ ผมอยากให้ภาครัฐ ภาคเอกชน ได้ศึกษางาน ViennaUP ผมพร้อมที่จะเชื่อมโยงให้กับทาง Vienna City ผมเชื่อว่า จะทำให้ผู้ใหญ่เกิดความสนใจ และได้ไอเดียในการผลักดันสนับสนุน StartUP และก่อให้เกิดความสำเร็จได้มากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน“
คลิปสรุปงาน ViennaUP 2024
ในขณะที่มีสามสิบสี่งาน และมีคนมากมาย มีหน่วยงานมากมายที่อยากจะคุย ผมนึกถึง Hermione ใน Harry Potter ที่ใช้เวทมนต์ย้อนอดีตเพื่อให้เข้า lecture ได้ทุกวิชา ผมน่าจะเข้าไปประมาณ 10 งานเท่านั้นเอง แต่ละงานก็ดูได้ไม่ทั้งหมด ผมคัดมาเล่าให้ฟังประมาณนี้ครับ
งาน Impact Day
Impact Day ที่เวียนนาในปี 2024 เป็นงานที่รวมตัวนักลงทุนเพื่อสังคม ผู้ประกอบการ นโยบาย และผู้นำธุรกิจจากทั่วโลก จัดขึ้นที่ Hofburg Palace ระหว่างวันที่ 5–7 มิถุนายน จุดเด่นของงานคือการนำเสนอวิธีแก้ปัญหาที่สร้างสรรค์และยั่งยืนต่อความท้าทายระดับโลก วันแรกเน้นการวางกลยุทธ์ร่วมกัน วันถัดมาเป็นเทศกาลที่เปิดโอกาสให้มีการเชื่อมต่อและเรียนรู้จากผู้นำทางความคิด และวันสุดท้ายคือการลงลึกในเวิร์กช็อปเพื่อการดำเนินการที่มีประสิทธิภาพ
งาน Gigabit x Beyond
งานนี้เป็นงานที่พูดถึง Tech AI Connectivity และ Metaverse เป็นงาน nerd nerd จัดในตึกภาครัฐแห่งนึง คือหลาย ๆ ตึกจะเป็นกำแพงสี่ด้าน ตรงกลางคือปล่อยโล่งไว้เป็นส่วนกลาง แล้ววันนี้เค้าก็เอาเวที เอาเก้าอี้มาตั้ง งานเล็ก ๆ สัก 80 คน มี cocktail มีอาหารบุฟเฟ่
โดยงานนี้ผมได้รับเชิญให้ขึ้นพูดเป็น panel ด้วย เกี่ยวกับ AI Metaverse & Connectivity โดยมีคนร่วม panel เป็นฝรั่งผู้บริหารบริษัทโทรคมนาคม แล้วก็มี professor ที่ทำด้าน 5G และหน่วยงานภาครัฐที่ทำ 5G playground
ผมเจอคำถามว่า ทำไม adoption ด้าน tech ที่เอเชีย ถึงมากกว่ายุโรป ผมตอบว่า
“อาจจะเป็นเพราะความเหลื่อมล้ำและปัญหาที่มากกว่ายุโรป ทำให้พวกเราคนเอเชียดิ้นรนที่จะหาตัวช่วยในการยกระดับประสิทธิภาพการทำงาน นำสู่คุณภาพชีวิตที่สูงขึ้น สำหรับยุโรปถึงแม้ว่า adoption จะไม่ได้สูงเท่า แต่ด้วยคุณภาพชีวิตที่ดี ทำให้คนสามารถมีเวลาที่จะคิดค้นนวัตกรรมสิ่งใหม่ ๆ ให้กับโลกของพวกเรา”
งาน Connect Day
ผมจาก Botnoi กับเพื่อน ๆ StartUp ที่ได้รับคัดเลือก เข้าร่วมโครงการ Vienna StartUp Pacakge 1 เดือน โดยทีมงาน Vienna Business Agency บอกว่า event อื่น ๆ พลาดได้ แต่ event Connect Day ห้ามพลาดเด็ดขาด เพราะจะงานเปิดตัวพวกเรา สำหรับงานนี้สำคัญอย่างยิ่งหากบริษัทไหน อยากจะมาตั้งธุรกิจที่ Vienna โดยมีแหล่งทุนจากภาครัฐมากมาย และมีเวทีให้พวกเราได้ pitching ด้วย แต่ก็ตามชื่อครับ Connect Day ก็เป็นงานที่ Connect ทุกคน ใครมางานนี้ก็อยาก Connect กัน คุย ๆๆ เพื่อให้จำได้ ผมก็จะขอ selfie พร้อมให้ชูป้าย ผมก็อ้างว่ากลัวจะจำไม่ได้น่ะครับ
และในงาน Connect Day ทาง Vienna Business Agency ก็ได้ประกาศต่อสาธารณะ ว่า BOTNOI จากประเทศไทย เป็น 1ใน 15 StartUP จากการสมัครกว่า 300 StartUP ทั่วโลก
งาน InsideOut Summit 2024 by tect2Impact
งานนี้จัดขึ้นเพื่อหารือเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีล้ำสมัย เช่น AI บล็อกเชน และหุ่นยนต์ ในการแก้ปัญหาท้าทายระดับโลก เช่น ความยั่งยืน เศรษฐกิจหมุนเวียน และการเปลี่ยนแปลงพลังงาน นอกจากนี้ งานยังมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาตนเองสำหรับนักนวัตกรรม ครอบคลุมหัวข้อต่างๆ เช่น การปรับปรุงทักษะการรับรู้ การเสริมสร้างความสามารถทางจิตใจ และการใช้ความฉลาดทางอารมณ์ในสภาพแวดล้อมธุรกิจ
ผมได้รับโอกาสให้ขึ้นเวทีนำเสนอ Solution Voicebot ของ BOTNOI เพื่อแก้ไขความขาดแคลนของผู้เชี่ยวชาญ ไม่ว่าจะเป็นครู อาจารย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ และได้ยกตัวอย่างงานที่ทำที่ประเทศไทย เช่น AI สายด่วนสุขภาพจิตร่วมกับกรมสุขภาพจิต AI แชทบอทคุณครูกับสสวท AI คัดกรองคนไข้ร่วมกับศิริราช เป็นต้น
ได้ฟังบรรยาย และฟัง pitch ของ StartUP อื่น ๆ ที่พยายามสร้าง Impact ผมรู้สึกว่างานนี้มันอบอุ่น feel good ทุกคนดูเป็นคนดีอยากช่วยสังคม
“หวังว่าบทความนี้จะสร้างแรงบรรดาลใจให้กับเพื่อน ๆ StartUP หรือใครก็ตามที่อยากจะทำ StartUP นะครับ รวมทั้งหน่วยงานต่าง ๆ VC CVC ภาครัฐ ภาคเอกชน ที่จะมาช่วยขับเคลื่อน StartUP Ecosystem ขับเคลื่อนประเทศของเรานะครับ “
แล้วยังไงปีหน้าเราไป ViennaUP ด้วยกันมั้ยครับ :)
— — — — — — — — -
เกี่ยวกับ BOTNOI
BOTNOI มุ่งมั่นพัฒนา AI เพื่อแก้ไขความขาดแคลนของผู้เชี่ยวชาญ อาทิ แพทย์ พยาบาล ครูอาจารย์ เจ้าหน้าที่บริการ โดยปัจจุบัน มีผลิตภัณฑ์ AI ที่ช่วยแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้ ได้แก่ ระบบโต้ตอบแทนผู้เชี่ยวชาญ ในรูปแบบของ Chatbot Voicebot DigitalHuman นอกจากนี้เรายังมุ่งมั่นในการแบ่งปันความรู้ด้าน AI และ Data Science และ StartUPให้กับประชาชน ดูรายละเอียดเกี่ยวกับพวกเราเพิ่มเติมได้ที่ https://botnoigroup.com ครับ